ประวัติ

ประวัติองค์การฯ

องค์การพระกิตติคุณสมบูรณ์สัมพันธ์ในประเทศไทย (พ.ส.ท.) ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นโดยมิชชันนารีชาวแคนาดา  ศาสนาจารย์วิลเลี่ยม เอฟ. บุทเชอร์ (WILLIAM F.BUTCHER)  ได้เข้ามาบุกเบิกพันธกิจในประเทศไทยในปี 1961 ระยะแรกท่านทำงานอยู่กับชุมชนชาวจีนในย่านเยาวราช  โดยใช้สถานที่ที่เป็นบ้านของพี่น้องคริสเตียนที่รักพระเจ้า  ซึ่งเป็นห้องเล็กๆ อยู่บนชั้นที่ 4 ของโรงแรมหกชั้น โดยการสอนภาษาจีนและภาษาอังกฤษ  ต่อมาสถานที่คับแคบและแออัด  ท่านจึงย้ายมาเช่าห้องที่บริเวณวงเวียน 22 กรกฎา  อำเภอป้อมปราบศัตรูพ่าย  กรุงเทพฯ  และเปิดสถานประกาศชื่อว่า “พระเจ้าทรงเรียก” คริสตจักรเติบโตอย่างรวดเร็ว  จากวันเริ่มต้นจนถึงวันที่ท่านกลับประเทศแคนาดา  มีสมาชิกประมาณ 40 – 50 คน

 

ปี 1965 มีมิชชันนารีครอบครัวใหม่คือ ศจ.ดอน เชล เล็นเบอร์ก ได้เข้ามาร่วมงานอีกครอบครัวหนึ่ง ถึงประเทศไทยในเดือนกุมภาพันธ์  และในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน  อจ.บุทเชอร์และครอบครัวได้กลับแคนาดา  เพื่อไปรายงานต่อคริสตจักรในคณะถึงพันธกิจที่ทำในประเทศไทย  และเพื่อขอการสนับสนุนทางการเงินเพื่อจะซื้อที่ดินสำหรับการก่อสร้างอาคารโบสถ์และโรงเรียนพระคริสตธรรม  จากความเหน็ดเหนื่อยในการเดินทาง  ทำให้ประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิตในเดือนพฤศจิกายน 1965

 

ปี 1968  ครอบครัวของ ศจ.โรนัลด์ อี. ไวท์ ได้เข้ามาในประเทศไทย  เพื่อเตรียมการตั้งโรงเรียนพระคริสตธรรม  และรับช่วงงานต่อเพราะ ศจ.เชลเล็นเบอร์ก จะกลับแคนาดาในปีถัดไป

 

ปี 1969 ศจ.ไวท์ เปิดการสอนพระคัมภีร์ในภาคค่ำเดือนกรกฎาคมขึ้น โดยมีผู้เข้าเรียนรุ่นแรก 5 คน วันที่ 11 ตุลาคม 1969 ขณะที่ ศจ.ไวท์และคนไทยอีก 5 คน (เป็นนักเรียนพระ คัมภีร์ 3 คน) รถยนต์ประสบอุบัติเหตุที่อำเภอวังน้อย จ.อยุธยา  ถูกรถส่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐซึ่งแซงรถบรรทุกขึ้นมาแล้วชน  เป็นเหตุให้ อจ.ไวท์กับคนไทยอีก 3 คนเสียชีวิต

 

ปี 1970 คณะมิชชั่น PAOC  ได้ ส่งมิชชันนารีเข้ามาอีก 4 ครอบครัว คือ

  1. ศจ.ดอน เรย์เมอร์
  2. ศจ.ดาร์ลสัน ยัง
  3. ศจ.โรเบอร์ต จอห์น อีมส์
  4. อจ.เกล็น บอสเลอร์ อาจารย์ท่านนี้และภรรยามาเป็นครูสอนใน โรงเรียนนานาชาติพร้อมกับการร่วมรับใช้พระเจ้าด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้ที่มาร่วมรับใช้พระเจ้าในการประกาศและช่วยสอนภาษาด้วย  อาทิ อจ.แจนิส โลเวน  และอาสาสมัครอีกหลายคนเปิดศูนย์สอนภาษาชื่อ SHARON BIBLE CENTER (สุขุมวิทซอย 11)

 

ศจ.อีมส์ เคยเป็น มิชชันนารีที่ไปในหมู่เกาะเวสท์อินดิส  มีพันธกิจที่เกิดผลมาก  ในปี 1971 ท่านได้รับหน้าที่เป็นศิษยาภิบาลของคริสตจักรพระเจ้าทรงเรียก  และผู้อำนวยการโรงเรียนพระคัมภีร์ภาคค่ำด้วย  แต่ท่านทำหน้าที่ได้เพียงระยะเวลาที่สั้นมาก  เพราะในเดือนกรกฎาคม 1971  ท่านได้เสียชีวิตเพราะหัวใจวาย หลังจากการไปตี SQUASH

 

ปี 1972 เนื่องจากความตายที่เกิดขึ้นกับมิชชันนารีกับคนไทย  ทำให้พี่น้องจากแคนาดาได้ถวายตัวมาเป็นมิชชันนารีมากขึ้น  และได้ร่วมกันถวายทรัพย์เพื่อการซื้อที่ดินสร้างโบสถ์และโรงเรียนพระคัมภีร์  เป็นเงิน 2,200,000 บาท  และเราได้ซื้อแปลงที่ดินที่สุขุมวิทซอย 6 เป็นโบสถ์  และเปลี่ยนชื่อจากคริสตจักรพระเจ้าทรงเรียกเป็นคริสตจักรใจสมาน  และเปิดสอนพระคัมภีร์ภาคค่ำ  และในปีต่อมาเปิดเป็นภาคกลางวัน  ใช้ชื่อศูนย์ฝึกอบรมศาสนทูต  โดย ศจ.ดอน เรย์เมอร์ เป็นผู้อำนวยการ (ปัจจุบันคือ พระคริสตธรรมเพ็นเทคอส)

 

ในช่วงปี 1972 – 1975 มิชชันนารีและคนไทยได้ร่วมกันก่อตั้งขยายพันธกิจไปในที่ต่างๆ อีกหลายแห่ง  ประกอบกับมีผู้รับใช้พระเจ้าคนไทยที่บุกเบิกก่อตั้งคริสตจักร  โดยมีสายสัมพันธ์กับ ศจ.นิรุทธ์ จันทร์ก้อน  ซึ่งติดต่อประสานงานผ่านทางคริสตจักรใจสมาน  ทำให้ภารกิจของคริสตจักรมีมากขึ้น  ประกอบกับความตั้งใจของมิชชั่น PAOC คือ  ต้องการให้คนไทย (คนในพื้นที่) ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ  

 

ดังนั้นในปี 1975 จึงได้รวมกันตั้งเป็น  “คณะพระกิตติคุณสมบูรณ์สัมพันธ์ในประเทศไทย” (พ.ส.ท.)  ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น  “องค์การพระกิตติคุณสมบูรณ์สัมพันธ์ในประเทศไทย”  มี  5  คริสตจักรอยู่ภายใต้องค์การฯ ขณะเริ่มต้นนั้นคือ  คริสตจักรใจสมาน กรุงเทพฯ, คจ.ปากเกร็ด กรุงเทพฯ, คริสตจักรประชาสรรค์ดินแดง กรุงเทพฯ, คริสตจักรพระกิตติคุณสมบูรณ์สัมพันธ์สระบุรี จ.สระบุรี  และคริสตจักรสามัคคีธรรมเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่  โดยใช้ธรรมนูญของ PAOC มาเป็นแนวทางดำเนินงานของคณะกรรมการของคณะเป็นคนไทยและมิชชันนารีร่วมกัน ศจ.นิรุทธ์ จันทร์ก้อน เป็นประธานองค์การ พ.ส.ท. คนแรก  และการบริหารดำเนินการเป็นไปตามมติและข้อตกลงของกรรมการ  แล้วแจ้งให้ผู้รับใช้พระเจ้าในพื้นที่ต่างๆ ทราบ  ต่อมาพัฒนาขึ้นเป็นระบบกรรมการภาคประสานงานกับกรรมการบริหาร

 

ปี 1985 คณะกรรมการได้มอบหมายให้ ศจ.เดชา อังคศุภรกุล กับ ศจ.ศรีธนต์ เยาว์ธานี  ร่วมกันยกร่างธรรมนูญและกฎบัตรต่างๆ ขึ้น  ได้มีการประชุมร่วมของผู้รับใช้พระเจ้า  ระหว่างปี 1985 – 1986 ถึง 2 ครั้ง  เพื่อพิจารณาและรับรองธรรมนูญและกฎบัตร  แล้วประกาศใช้ธรรมนูญเป็นทางการในเดือนเมษายน ปี 1986  ในการปรับเปลี่ยนก่อให้เกิดการทำงานร่วมกัน  โดยมีกรรมการอำนวยการและกรรมการบริหาร

 

ธรรมนูญและกฎบัตรขององค์การฯ มีการแก้ไขปรับปรุงครั้งที่ 1 ในปี 1993 และ ครั้งที่ 2 ในปี 2008

 

องค์การฯ ได้มีพิธีแต่งตั้ง ศาสนาจารย์ขององค์การฯ ครั้งแรกในปี 1986  มีผู้รับการแต่งตั้ง 4 ท่าน คือ ศจ.มนูญศักดิ์ กมลมาตยากุล, ศจ.แสง ศิริ เธียรวานิชกุล, ศจ.สวรรค์ สร้อยศรี และ ศจ.ศรีธนต์ เยาว์ธานี

 

ปัจจุบันองค์การฯ  มีคริสตจักรและศูนย์ประกาศข่าวประเสริฐในประเทศรวมกัน 87 แห่ง  และคริสตจักรในองค์การฯ  มีพันธกิจที่ประสานงานกับพันธกิจในต่างประเทศที่สิงคโปร์, ฮ่องกง  และเกาหลี  ได้มีการสนับสนุนให้ผู้รับใช้พระเจ้าออกไปเป็นมิชชันนารีในประเทศจีน  เยอรมัน  และเนปาล

**************************************