บทความคริสเตียน
ผู้นำดี ต้องมีผู้ตาม
ผู้นำดี ต้องมีผู้ตาม
โดย : ริค บ๊อกซ์
คุณเคยมีเจ้านายแบบที่คุณยอมให้อย่างเต็มใจหรือไม่? ผมเคยมีเจ้านายแบบนั้นอยู่คนหนึ่ง เป็นเจ้านายที่สามารถปล่อยเชื้อโรคแห่งความกระตือรือร้น ความน่าเคารพ และความใจดี ให้กับคนที่ร่วมงานด้วย ทำให้ผมกระตือรือร้นที่จะทำงานที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับผม มีคนพูดถึงผู้นำที่เป็นแรงบันดาลใจกับลูกน้องจนลูกน้องยอมทำให้ทุกอย่าง หากจำเป็นต้องวิ่งชนกำแพงก็จะทำให้ นั่นแหล่ะเจ้านายของผมเป็นผู้นำแบบนั้น
โชคร้าย ที่ผู้นำแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ คนที่เราเรียกว่า "ผู้นำ" มักจะมีทัศนคติต่อลูกน้องว่า เพราะ "ฉันคือเจ้านาย" ลูกน้องต้องทำตามที่สั่งอย่างเต็มที่เต็มใจและปราศจากข้อสงสัย บ่อยครั้งที่คนเหล่านี้พลาดเพราะไม่รู้จักการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้ กับลูกน้องของตนเอง และไม่เคยรู้ว่าการนำผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพทำกันอย่างไร ผลลัพธ์ก็คือ เขาจะพบว่าตัวเองยืนโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว ท่ามกลางสถานการณ์ที่รุมเร้า
ในทางกลับกัน ผู้นำผู้มีประสิทธิภาพเข้าใจดีว่าลูกน้องของเขาต้องการขวัญและกำลังใจเพื่อ ที่พวกเขาจะมีกำลังทำงานให้อย่างเต็ม ผมรู้จักเจ้านายที่พูดว่า "ผมจะไม่ขอให้พวกคุณทำในสิ่งที่ตัวผมเองก็ไม่อยากทำ" คำพูดนั้นไม่ได้หมายความว่าคนที่เป็นผู้นำต้องทำเป็นทุกอย่าง เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็ผิดหลักการของการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ แต่มีความหมายว่าผู้นำผู้นั้นได้ปลุกใจลูกน้องโดยบอกกับเขาว่าจะไม่เอางาน ที่ตนเองไม่อยากทำหรืองานที่ตัวเองมองว่าต้อยต่ำไปมอบหมายให้ลูกน้องทำแทน ไม่แม้แต่งานกวาดฟื้นหรือเปลี่ยนหลอดไฟ
มีคนเคยอธิบายภาพของการเป็นผู้นำ ว่า: ในการพยายามนำผู้อื่น หากหันกลับมาแล้วพบว่าไม่มีใครตามมาเลย สิ่งนั้นเรียกว่าการเดินเล่น หรือดังที่กล่าวไว้ใน สุภาษิต 14:28 "ในมวลประชาชนก็มีศักดิ์ศรีของพระราชา แต่ไร้ประชาชนเจ้านายก็ไร้ค่า"
นี่อาจเป็นสาเหตุว่าทำไมองค์กรที่ประสบปัญหามีการเปลี่ยนผู้นำบ่อย ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเพื่อแสวงหาผลกำไรหรือไม่ หรือแม้แต่ทีมกีฬา เพราะเขาไม่ได้เลือกผู้นำที่เหมาะสมที่สามารถนำลูกทีมให้ทำตามอย่างสมัครใจ อีกข้อพระคัมภีร์หนึ่งกล่าวว่า "เมื่อแผ่นดินทรยศ ก็มีผู้ครอบครองเพิ่มขึ้น แต่ด้วยคนที่มีความเข้าใจและรอบรู้ เสถียรภาพของแผ่นดินนั้นจะยั่งยืนนาน" (สุภาษิต 28:2)
หากคุณต้องการให้ลูกน้องคุณพร้อมที่จะตามคุณไปแม้ใน สถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด คุณต้องฟันฝ่าเพื่อเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง: เป็นคนหนึ่งที่คอยปลุกเร้า แสดงวิธีต่อรองอย่างมีทักษะ กล้าตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ทำเพื่อผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของส่วนรวม และพัฒนาผู้นำรุ่นต่อไป มีจุดไหนที่คุณต้องพัฒนาและปรับปรุงในอาทิตย์ที่จะถึงนี้บ้าง
ท้ายที่สุด ตัวอย่างที่ดีที่สุดของการเป็นผู้นำอยู่ในพระคัมภีร์ก็คือพระเยซูคริสต์นั่น เอง ดังที่พระองค์ตรัสเกี่ยวกับพระองค์ว่า "เพราะว่าบุตรมนุษย์มิได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่ท่านมาเพื่อจะปรนนิบัติเขา และประทานชีวิตของท่านให้เป็นค่าไถ่คนเป็นอันมาก" (มะระโก 10:45)
คุณเป็นผู้นำแบบนั้นรึเปล่า หรือคุณสามารถเห็นภาพตัวคุณเองกลายเป็นราชาแห่งการผู้นำที่แน่วแน่ที่จะ ปรนนิบัติผู้อื่นมากกว่ารับการปรนนิบัติ และพร้อมที่จะเสียสละเพื่อเห็นแก่ส่วนรวม นั่นแหล่ะ คือผู้นำที่ควรติดตามอย่างปราศจากข้อสงสัย
คำถามสะท้อนมุมมอง
1.ใครคือผู้นำที่ดีที่สุดที่คุณเคยทำงานด้วย เขามีบุคลิกภาพหรือลักษณะที่โดดเด่นแบบใดที่ทำให้เขาเป็นผู้นำที่ดี
2.คราวนี้ ลองอธิบายถึงผู้นำหรือ "นาย" ที่แย่ที่สุดเท่าที่คุณเคยเจอมา อะไรคือจุดอ่อนของเขา เขาขาดคุณสมบัติผู้นำที่ดีอะไรบ้าง
3.คุณจะให้คะแนนตัวเองในฐานะผู้นำอย่างไร อะไรที่คุณพิจารณาว่าเป็นจุดแข็งที่ดีที่สุดของคุณในฐานะเป็นผู้นำ และคุณต้องพัฒนาความสามารถหรือคุณลักษณะใดเพื่อการเป็นผู้นำที่ดี
4.พระเยซูทรงอธิบายเกี่ยวกับพระองค์เองว่าเป็นผู้ที่เต็มใจที่จะปรนนิบัติ ผู้อื่นมากกว่าที่จะย้ำให้ผู้อื่นมาปรนนิบัติพระองค์ และพระองค์ทรงพร้อมที่จะมอบชีวิตของพระองค์เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของทุกคน เป็นไปได้ไหมที่เราจะคาดหวังความมุ่งมั่นแบบเดียวกันจากผู้นำในทุกวันนี้ กรุณาอธิบายคำตอบ
ข้อพระคัมภีร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
โยชูวา 1:1-9, สดุดี 23:1-6, สุภาษิต 27:23-27, ลูกา 6:37-40, ยอห์น 10:2-14
ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก cbmc ประเทศไทย(คณะนักธุรกิจและนักวิชาชีพคริสเตียน)